ถึงลูกรักของแม่...
วันนี้เป็นวันที่แม่ได้รู้ผลการตรวจเลือดว่าแม่ "ตั้งครรภ์" หรือไม่ เช้านี้พ่อกับแม่พากันตื่นนอนแต่เช้าเลยนะ ประมาณหกโมงเห็นจะได้ พ่อกับแม่ตื่นเต้นน่าดู เพราะปกติทุกเช้าพ่อกับแม่จะต้องตื่นมากินข้าวเช้ากันก่อน แล้วค่อยทำธุระอะไรอย่างอื่น แต่วันนี้พิเศษหน่อย หรืออาจจะตื่นเต้นมากไป พ่อกับแม่แค่ต้มน้ำร้อนและกินน้ำกันคนละสองแก้วเท่านั้นเอง
ประมาณเจ็ดโมงสิบห้านาที พ่อขับรถพาแม่ไปโรงพยาบาล เพราะแม่มีนัดตรวจเลือดตอนเจ็ดโมงครึ่ง พูดถึงการตรวจเลือด แม่อยากให้หนูได้รู้ไว้ว่า ปกติแม่เป็นคนที่กลัวเข็มมาก เวลาเจ็บป่วยเป็นไข้แทบไม่อยากไปโรงพยาบาล เพราะกลัวโดนฉีดยา กลัวโดนเจาะเลือด แต่ครั้งนี้แม่ตั้งใจแล้วว่าแม่อยากมีหนู ต่อให้โดนเจาะเลือดมากมายอย่างไร แม่ก็จะผ่านมันไปให้ได้ เพราะพ่อกับแม่รอหนูมานานมากๆ แล้ว ระยะหลังๆ มาแม่โดนเข็มฉีดยาและโดนเจาะเลือดทุกอาทิตย์...วันนี้ก็เช่นกัน แม่โดนเจาะเลือด และโดนดูดเลือดไปหนึ่งหลอดเล็กๆ เพื่อตรวจดูระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน...แม่จะได้รู้เสียทีว่าแม่มีหนูแล้วจริงๆ หรือไม่
ตอนบ่ายๆ ของวันนี้ คงประมาณบ่ายสองกว่าๆ คุณพยาบาลคาเรน ดันเลย์ ได้โทรมาแจ้งผลการตรวจเลือด คำแรกที่แม่ได้ยินคือ "ยินดีด้วยนะคะ คุณตั้งครรภ์ได้สี่สัปดาห์แล้วค่ะ" คงไม่ต้องบอกว่าแม่มีความสุขแค่ไหนที่ได้ยินคำๆ นี้ ทั้งๆ ที่แม่เองก็พอจะรู้คำตอบอยู่บ้างแล้วจากการแอบตรวจด้วยตัวเองเมื่อวาน แต่น้ำตาแห่งความปลาบปลื้มยินดี และความดีใจที่มีมันล้นปรี่มากมายจริงๆ มาถึงวันนี้พ่อกับแม่ก็คงไม่ต้องรอคอยปาฏิหาริย์อะไรอีกแล้วนะ แม่มีหนูมาอยู่กับแม่แล้วจริงๆ
แต่กว่าเราจะมาถึงวันนี้กันได้ พ่อกับแม่ก็ผ่านความผิดหวังมามากมายหลายครั้งเลยนะ กี่ครั้งไม่รู้ต่อกี่ครั้งที่แม่ต้องร้องไห้เพราะผลการตรวจออกมาว่าแม่ไม่ได้ตั้งครรภ์ ทุกครั้งที่ประจำเดือนของแม่มา มันมาพร้อมกับน้ำตาของแม่เลยแหละ ความผิดหวังเสียใจมันมากมายเหลือเกิน...ด้วยอายุที่มากขึ้น (ปีนี้แม่ก็ 33 ปีแล้วนะ) พ่อกับแม่ก็เลยตัดสินใจทำเด็กหลอดแก้ว แต่กว่าจะตัดสินใจได้ แม่ก็ต้องมานั่งชั่งน้ำหนักในใจระหว่างความกลัวเข็มกับความอยากมีลูกนะ...แต่เพราะแม่อยากมีลูก แม่จึงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้หนูมานะลูกนะ
ก่อนทำเด็กหลอดแก้วสองเดือน เพื่อนแม่ (คุณป้าแนนซี่) แนะนำให้ไปฝังเข็มเพื่อปรับสมดุลย์ร่างกาย เห็นว่าเพื่อนป้าเขาไปทำแล้วผล แม่ก็เลยตัดสินใจลองทำดู แม้ว่าจะกลัวเข็มมากมายก่ายกอง แต่แม่ก็ยอมให้หมอเขาฝังเข็มเป็นสิบๆ เล่มเลยนะ บางครั้งก็ฝังที่หน้าท้องบ้าง หลังบ้าง แขนขาและหัวบ้าง ไปหาหมอแต่ละทีก็ใจสั่นหวั่นไหวไปกับเข็มนะ ต้องแอบถามหมอก่อนทุกครั้งว่าวันนี้ฝังกี่เล่ม หมอก็หัวเราะแม่ทุกครั้ง การไปหาหมอจีนเพื่อปรับสมดุลย์ร่างกายนี้ นอกจากหมอเขาจะฝังเข็มให้แม่แล้ว หมอยังจ่ายยาสมุนไพรรสชาติแปลกๆ มาให้แม่ได้กินด้วยทุกอาทิตย์ ถึงจะไม่อร่อย แต่ยังไงก็ต้องฝืนใจกินกันล่ะนะ ส่วนพ่อก็มีส่วนร่วมด้วยทุกครั้ง ด้วยการไปรับไปส่ง และรวมถึงไปนั่งเฝ้าแม่ในห้องฝังเข็มด้วย ครั้งละเกือบๆ ชั่วโมงน่ะ บางทีพ่อก็อ่านหนังสือรอบ้าง เล่นโทรศัพท์บ้าง เพราะหมอเขาห้ามคุยกัน หรือบางทีที่แม่คันจมูก คันหน้าแต่ขยับแขนขาไม่ได้ ก็อาศัยพ่อนี่แหละช่วยเกาให้...แม้นว่าประสบการณ์นี้มันจะแฝงไปด้วยความเจ็บปวดจากปลายเข็ม แต่มันก็มีสิ่งดีๆ ที่น่าจดจำซ่อนอยู่น่ะนะ เล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้ยิ้มได้ในยามที่คิดถึง
ส่วนขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้วก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน เพราะแม่ต้องเอาเข็มมาจิ้มพุงตัวเองทุกวันเป็นเวลาสิบสองวัน รวมทั้งหมดก็ประมาณยี่สิบเข็ม เพราะบางวันก็หนึ่งเข็ม บางวันก็สองเข็ม ด้วยความที่แม่กลัวเข็มจนฝังใจ หน้าที่ในการฉีดยาจึงตกเป็นของพ่อไป พ่อฉีดยาให้แม่ทุกวัน กว่าจะฉีดได้ในแต่ละวันก็ต้องร้องกันลั่นบ้าน แต่มันก็สร้างเสียงหัวเราะไปด้วยในตัวนะ เพราะแม่คงจะตลกมากน่ะตอนนั้น ด้วยความกลัวเข็มก็มีงอแงต่อรองโน่นนี่กันบ้าง กว่าจะเสร็จหนึ่งเข็มก็เล่นเอาเหนื่อยกันเลยทีเดียว
หลังจากฉีดยากระตุ้นไข่ไปสิบสองวัน และแล้วก็ถึงขั้นตอนการดูดไข่ออกมา ตอนดูดไข่แม่ไม่รู้หรอกว่าหมอเขาทำอย่างไร เพราะแม่โดนฉีดยาสลบ จำได้ว่าเข้าห้องผ่าตัดไปตอนสิบโมงครึ่ง ตื่นมาอีกทีก็สิบเอ็ดโมงกว่าๆ พ่อมารับกลับบ้านอีกทีก็ตอนบ่ายสอง วันรุ่งขึ้นคุณพยาบาลก็โทรมาแจ้งผลการดูดไข่ว่าได้ไข่ทั้งหมดจำนวนสิบห้าใบ ผสมแล้วได้ตัวอ่อนเก้าตัว ทางโรงพยาบาลก็เลี้ยงตัวอ่อนในหลอดแก้วไปห้าวัน สรุปแล้วเหลือตัวอ่อนที่แข็งแรงสมบูรณ์ทั้งหมดสามตัว...คุณหมอใส่ตัวอ่อนกลับให้แม่หนึ่งตัว (ซึ่งก็คือหนู...นักสู้ที่แข็งแกร่งลูกของแม่นั่นเอง) ส่วนตัวอ่อนอีกสองตัวคุณหมอเขาแช่แข็งไว้ให้ที่โรงพยาบาล...
กว่าจะมาเป็น "หนู..ลูกของแม่" มันไม่ง่ายเลยนะลูก เราทุกคนต้องเข้มแข็ง อดทนและต่อสู้กันมากๆ ลูกของแม่เข้มแข็งและเป็นนักสู้ หนูสู้ตั้งแต่แรกเริ่มปฏิสนธิ หนูฝ่าฟันอุปสรรคปัญหาต่างๆ ไปพร้อมๆ กับพ่อและแม่ ดังนั้น ต่อไปในภายภาคหน้า ไม่ว่าหนูจะต้องพบเจอกับอะไร หนูก็จะต้องเข้มแข็งและสู้แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ นะลูก...พ่อกับแม่รักหนูนะ
...............................................................................................................................
09/10/2013 (2556)
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่แม่ต้องไปโรงพยาบาลนะ พ่อกับแม่ก็ตื่นกันแต่เช้าอีกเหมือนเคย ไปถึงโรงพยาบาลก็ประมาณเจ็ดโมงครึ่ง นั่งรอแป๊บเดียวก็ได้เข้าห้องตรวจ ครั้งนี้มาเจาะเลือดเพือตรวจวัดระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนว่าอยู่ในระดับที่เพิ่มขึ้นหรือเปล่า เพราะตอนนี้หนูก็มาอยู่ในท้องแม่ได้ครบห้าสัปดาห์แล้วนะลูกนะ และผลการตรวจก็ออกมาแล้วว่าลูกแม่เติบโตแข็งแรงดี ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ที่หนึ่งพันหกร้อยกว่าๆ คุณพยาบาลบอกว่าอยู่ในระดับที่ดีมากๆ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเลย
แต่ช่วงนี้แม่รู้สึกไม่ค่อยดีเลย เป็นห่วงหนูมากๆ เพราะแม่ป่วยเป็นไข้หวัดมาสามสี่วันแล้ว อาการค่อนข้างหนักเหมือนกัน ทั้งไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล น้ำตาไหล แล้วยังอ่อนเพลียอีก ช่วงนี้แม่ทำอะไรไม่ได้เลย พ่อก็เลยลำบากหน่อย รับบทหนักทั้งในบ้านและนอกบ้าน พ่อคงเหนื่อยน่าดูเหมือนกัน เพราะทุกวันต้องตื่นแต่เช้ามาเตรียมข้าว เตรียมยาให้แม่ ตกเย็นกลับจากงาน ก็ต้องรีบกลับมาทำอาหารเย็นพร้อมกับเตรียมยาให้แม่อีกเหมือนเคย พ่อทำแบบนี้มาตั้งแต่ที่รู้ว่าแม่ท้องน่ะ เพราะช่วงแรกๆ แม่ก็ปวดท้องบ่อยๆ อาจเป็นเพราะหนูอยู่ในช่วงสร้างที่สร้างทางให้ตัวเองข้างใน คงกำลังฝังตัวกับผนังมดลูกน่ะ แม่ก็เลยปวดมาก บางวันก็ปวดจนทนแทบไม่ได้ เดินมากๆ ก็ไม่ไหว ยืดตัวตรงๆ ก็ไม่ได้ เพราะบริเวณหน้าท้องมันตึงและรั้งมากๆ ยิ่งพยายามยืดตัวก็ยิ่งเจ็บ...แต่แม่ก็ผ่านมันมาได้นะ เพราะได้กำลังใจจากพ่อเราน่ะแหละ และอีกหนึ่งกำลังใจที่ทำให้แม่เข้มแข็งก็คือกำลังใจจากลูกของแม่นี่เอง แม่พูดกับหนูทุกวันว่า "เราจะสู้ไปด้วยนะลูกนะ หนูต้องแข็งแรงนะลูก"....พ่อกับแม่รักหนูนะ
...............................................................................................................................
16/10/2013 (2556)
วันนี้แม่ไปโรงพยาบาลอีกแล้วนะลูก ไปเจาะเลือดเพื่อตรวจวัดหาระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนเหมือนเดิม ก็จะได้รู้ด้วยว่าหนูยังแข็งแรงและปลอดภัยอยู่ในท้องแม่นะลูก วันนี้พ่อกับแม่ก็ยังตื่นแต่เช้าเหมือนเดิม แต่พ่ออาจจะตื่นเร็วกว่าแม่หน่อยนึง เพราะพ่อต้องออกไปซื้อขนมปังกับนมที่โคลส์ ตั้งแต่พ่อรู้ว่าแม่มีหนู พ่อก็ไม่เคยให้แม่ต้องตื่นมาเตรียมอาหารเช้าอีกเลย พ่อรับทำหน้าที่ทุกอย่างเองหมด ไม่ว่าจะตื่นแต่เช้ามาเตรียมอาหารให้แม่ หรือตอนเย็นเลิกงานเสร็จ พ่อก็รีบกลับบ้านเหมือนกัน เพื่อจะมาทำอาหารที่แม่ชอบให้แม่กิน ช่วงนี้พ่ออาจจะเหนื่อยหน่อย แต่พ่อก็พูดเสมอว่า ถึงจะเหนื่อยยังไง แต่พ่อก็มีความสุขที่ได้ทำให้แม่กับหนู...พอช่วงบ่ายๆ คุณพยาบาลคาเร็นก็โทรมาแจ้งว่าระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ในระดับที่ดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง คุณพยาบาลยังบอกอีกว่าผลการวัดอยู่ที่สองหมื่นสามพันแปดร้อยเก้าสิบ
เช้านี้นอกจากเรื่องไปโรงพยาบาลแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่แม่กลุ้มใจ ก็คือว่ามันมีรอยเลือดสีน้ำตาลจางๆ ติดที่กางเกงในของแม่นิดนึง ซึ่งแม่ก็ไม่รู้นะว่ามันจะอันตรายอะไรกับลูกหรือเปล่า ก็คงได้แต่ภาวนาขอให้ลูกของแม่ปลอดภัย...อีกอย่างแม่ก็ไม่ได้มีอาการปวดท้องอะไรร่วมด้วย ก็เลยว่ารอดูอาการไปอีกซักระยะ ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลมากกว่านี้ แม่ก็คงต้องไปโรงพยาบาลน่ะแหละ แต่เท่าที่แม่ได้พูดคุยกับคนที่เขามีประสบการณ์ ส่วนใหญ่จะบอกว่าเป็นเลือดล้างหน้าเด็กน่ะ ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล...ยังไงๆ หนูต้องแข็งแรงและอดทนสู้นะลูกนะ
เมื่อสองวันก่อน พ่อกับแม่ก็เพิ่งจะไปพบจีพีมา เป็นคุณหมอประจำครอบครัวของเราน่ะลูก ชื่อคุณหมอจิงยี่ ชู ก็ไปปรึกษาคุณหมอเรื่องฝากครรภ์ เรื่องการดูแลหนู ว่าแม่ต้องกินต้องอยู่ยังไง ก็ได้คำแนะนำมาเยอะเลย คุณหมอท่านก็ให้การบ้านมาว่าให้ไปตัดสินใจให้ได้ก่อนว่าแม่อยากจะฝากครรภ์ที่ไหน ที่โรงพยาบาลเอกชน หรือโรงพยาบาลของรัฐ ได้คำตอบเมื่อไหร่ คุณหมอท่านก็จะออกใบส่งตัวให้...มาถึงตอนนี้พ่อกับแม่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้เลยลูก เพราะทั้งสองที่ต่างก็มีข้อดีข้อด้อยเหมือนๆ กัน ก็กะว่าเดี๋ยวรอไปตรวจอัลตร้าซาวด์อาทิตย์หน้าก่อนแล้วค่อยมาว่ากันอีกที...ตอนนี้หนูอยู่ในท้องแม่ได้หกสัปดาห์แล้วนะลูก...ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่พ่อกับแม่ก็รักหนูไปหมดใจแล้วนะลูกนะ
............................................................................................................................
22/10/2013 (2556)
อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ที่เจ็ดแล้วนะลูกที่แม่มีหนูมาอยู่กับแม่ แม่อยากให้หนูได้รับรู้ไว้นะว่ามันเป็นเจ็ดอาทิตย์ที่มีความหมายและแม่ก็มีความสุขที่สุด เช้านี้พ่อกับแม่มีนัดกับคุณหมอจอห์น อดัมส์เป็นครั้งแรก คุณหมอเป็นหมอที่แม่ไปฝากท้องด้วย คุณหมอดูท่าทางใจดี พูดคุยเป็นกันเองกับพ่อและแม่มากๆ พ่อกับแม่คงต้องกลับมาพบกับคุณหมออีกครั้งในอีกสี่สัปดาห์ข้างหน้า เพราะช่วงนี้มันเป็นช่วงสามเดือนแรก คุณหมอเขาก็เลยนัดมาตรวจแค่เดือนละครั้งนะลูก
พรุ่งนี้ (23/10/2013) พ่อกับแม่ก็จะต้องไปโรงพยาบาลอีกแล้วนะลูก ไปอัลตราซาวด์ดูการเจริญเติบโตของหนูว่าหนูเติบโตไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว พ่อกับแม่ตื่นเต้นมากๆ นะ เพราะพรุ่งนี้พ่อกับแม่จะได้เห็นหนูเป็นครั้งแรก ได้ยินเสียงหัวใจหนูเต้นเป็นครั้งแรกด้วย แม่ภาวนาและขอพรให้ลูกของแม่แข็งแรงสมบูรณ์ เติบโตตามวัยปกติเหมือนคนอื่นๆ เขานะลูก...แม่คงต้องทนรอไปจนกว่าจะถึงเวลานัดพรุ่งนี้ตอนสิบโมงสี่สิบห้าโน่นแหละ ถึงเวลามันดูเหมือนจะเดินช้าในตอนนี้ แต่พ่อกับแม่ก็เต็มใจที่จะรอเพื่อจะได้เจอหนูวันพรุ่งนี้นะลูก...เข้มแข็ง แข็งแรงและสมบูรณ์นะลูก พ่อกับแม่รักหนูที่สุดนะจ๊ะ
...........................................................................................................................................
23/10/2013 (2556)
หลังจากที่แม่ไปอัลตร้าซาวด์มาเช้านี้ ตอนนี้พ่อกับแม่ก็รู้ผลแล้วนะลูก แม่ได้รู้ว่าลูกของแม่แข็งแรงดี หัวใจก็เต้นเป็นปกติ (120 ครั้งแต่นาที) ตอนที่พ่อกับแม่ได้ เห็นหัวใจของหนู พ่อกับแม่ตื่นเต้นน่าดู ลูกของแม่ตัวเล็กๆ คงประมาณเม็ดถั่วได้มั้ง แต่หัวใจของลูกก็เต้นได้ชัดเจนนะลูก พ่อกับแม่แอบเสียดายที่ไม่สามารถฟังเสียงเต้นของหัวใจหนูได้ ได้เห็นแต่ภาพบนจอทีวี แต่ก็ไม่เป็นไรนะ เอาไว้คราวหน้า ตอนไปหาหมอสัปดาห์ที่สิบสอง ถึงตอนนั้นพ่อกับแม่คงได้ฟังเสียงหัวใจหนูเต้นบ้าง
สิ่งที่พ่อกับแม่ได้ติดไม้ติดมือกลับมาบ้านด้วยก็คือ รูปถ่ายที่เจ้าหน้าที่เขาปริ้นท์มาให้ เป็นรูปของหนูที่ปริ้นท์ออกมาเป็นขาวดำ แม่สัญญาว่าจะเก็บเอาไว้ให้หนูดูตอนหนูโตแล้วนะลูก หนูจะได้รู้ว่าเจ็ดสัปดาห์ที่หนูอยู่ในท้องแม่หนูตัวเล็กมากแค่ไหน...แม้วันนี้ลูกของแม่จะยังเล็กเท่าเม็ดถั่ว แต่ยังไงวันพรุ่งนี้และวันต่อๆ ไปหนูก็จะต้องเติบโตและแข็งแรงตามวัยของหนูนะลูกนะ หนูต้องอดทนและสู้ไปด้วยกันกับแม่นะลูก ...ยิ่งแม่ได้เห็นหนูวันนี้แม่ก็ยิ่งรักหนูมากยิ่งขึ้นนะลูกนะ แม่ขอให้หนูเติบโต แข็งแรงและสมบูรณ์ ขอให้หนูเป็นลูกที่ดีที่น่ารักของแม่ตลอดไปนะ...พ่อกับแม่รักหนูจ๊ะ
.........................................................................................................................................
29/11/2013 (2556)
วันนี้พ่อกับแม่ตื่นแต่เช้าเพื่อไปพบคุณหมอจอห์น อดัมส์ ครั้งนี้เป็นการนัดพบกันเป็นครั้งที่สองระหว่างแม่กับคุณหมอ ความตื่นเต้นอาจจะมีไม่มากเท่าครั้งแรก แต่ถึงยังไงแม่ก็ยังรู้สึกกระตือรือร้นที่จะได้พบกับคุณหมอ เพราะแม่อยากรู้พัฒนาการและความเป็นไปของลูกแม่ ว่าตอนนี้ลูกของแม่เติบโตไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว
ตอนแรกแม่ก็คาดหวังว่าจะได้อัลตราซาวด์ดูลูกของแม่ในวันนี้ เพราะตอนนี้หนูก็มาอยู่กับแม่ได้สามเดือนเต็มๆ แล้ว แม่เฝ้าอ่านบทความและหนังสือมากมายเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และพัฒนาการของเด็กในแต่ละไตรมาส แต่แม่ก็ต้องรอไปอีกหนึ่งสัปดาห์ แล้ววันเสาร์หน้า (07/12/201) แม่ถึงจะได้อัลตราซาวด์และดูความเคลื่อนไหวของหนูนะลูก ครั้งนี้แม่คงจะได้ยินเสียงหัวใจของหนูเต้นด้วย ครั้งก่อนแม่ยังเสียดายไม่หายที่หมอเขาให้แม่ฟังเสียงหัวใจของหนูไม่ได้ และครั้งนี้แม่ก็คงจะได้ซีดีบันทึกความเคลื่อนไหวของหนูผ่านการอัลตราซาวด์มาด้วย แล้วยังไงแม่จะเก็บไว้ให้หนูได้ดูตอนหนูโตนะลูกนะ
สรุปแล้ววันนี้แม่ก็ได้พูดคุยกับคุณหมอท่านประมาณ 20 นาที แล้วคุณหมอท่านก็ออกใบส่งตัวให้ไปตรวจเลือดเพื่อดูความสมบูรณ์ของแม่และตรวจดูว่าหนูมีบกพร่องหรือไม่ (แม่รู้ว่าลูกของแม่ต้องแข็งแรงสมบูรณ์ทุกประการนะลูกนะ) นอกจากตรวจเลือดแล้วคุณหมอท่านก็ออกใบส่งตัวให้ไปแม่ไปอัลตราซาวด์ในวันเสาร์หน้า...แล้วยังไงพ่อกับแม่จะตั้งหน้ารอคอยเพื่อจะได้เจอหนูในวันอาทิตย์หน้านะลูก (เจอกันผ่านเครื่องอัลตราซาวด์ก่อนนะลูก แล้วเดี๋ยวมิถุนายนปีหน้าเราค่อยมาเจอกันจริงๆ อีกที)...พ่อกับแม่รักหนูมากมายนะลูกนะ...
..................................................................................................................................
07/12/2013 (2556)
วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่พ่อกับแม่รู้สึกตื้นตันอย่างมากมาย เป็นวันที่ทำให้แม่ยิ้มได้ตลอดทั้งวัน เพราะวันนี้เป็นวันที่ลูกได้มาอยู่กับแม่ครบ 13 สัปดาห์ และแม่ก็ได้เจอลูกของแม่ผ่านเครื่องอัลตร้าซาวด์ด้วย คงไม่ต้องให้แม่บอกนะลูกนะว่าแม่รู้สึกอย่างไร ความรู้สึกมันเกินกว่าจะบรรยายจริงๆ
พ่อกับแม่มีนัดไปอัลตร้าซาวด์ที่คลินิคโมนาชอัลตร้าซาวด์ฟอร์วูแมน สาขามัลเกรฟ เป็นโชคดีของแม่กับพ่ออย่างมากมายที่วันนี้คุณหมอโจเป็นคนทำอัลตร้าซาวด์ให้แม่ คุณหมอใจดีและอธิบายได้ละเอียดมากๆ แม่ใช้เวลาอยู่ในห้องอัลตร้าซาวด์ประมาณ 20 นาที ครึ่งแรกประมาณ 15 นาที และครึ่งหลังอีกประมาณ 5 นาที ที่คุณหมอให้แบ่งเวลาออกเป็นสองช่วงก็เพราะว่าช่วงแรกหนูไม่ยอมเปลี่ยนท่าเลย เอาขาไขว้กันตลอด ไม่ยอมให้แม่ได้ดูว่าจริงๆ แล้วลูกของแม่จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่พอคุณหมอให้แม่ไปเข้าห้องน้ำ ตอนกลับมาตรวจใหม่รอบสอง หนูก็ยอมเปลี่ยนท่า ทำให้คุณหมอเห็นได้ชัดเจนขึ้นว่าหนูน่าจะเป็นเพศไหนกันแน่ คุณหมอเดาว่าลูกของแม่น่าจะเป็นผู้ชาย (คุณหมอยังไม่แน่ใจเพราะอะไรๆ มันยังไม่ชัดเจน แต่ท่านก็เดาได้ลางๆ จากประสบการณ์ที่สั่งสมมานาน)...สำหรับพ่อกับแม่ไม่ว่าหนูจะเกิดมาเป็นหญิงหรือชาย พ่อกับแม่ก็รักหนูนะลูก
แม่จำได้ว่าช่วงแรกๆ ของการอัลตร้าซาวด์ หนูดิ้นใหญ่เลยนะลูก คงเป็นเพราะคุณหมอเอาเครื่องอัลตร้าซาวด์กดที่ท้องของแม่ หนูก็เลยตกใจ แม่นอนดูหนูจากจอทีวี ดูไปน้ำตาก็ไหลไป มันเป็นอะไรที่ปลาบปลื้มและตื้นตันมากๆ แม่รอวันที่จะได้เห็นอะไรแบบนี้มานาน พ่อกับแม่รอหนูมานานมากๆ นะลูก วันนี้แม่ได้เห็นว่าลูกของแม่มีพัฒนาการที่ดี ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น ปกติดีทุกอย่าง แม่ก็ดีใจ หัวใจหนูเต้น 145 ครั้งต่อนาที ซึ่งก็อยู่ในเกณฑ์ปกติเหมือนกัน...ดังนั้นตอนนี้หนูมาอยู่กับแม่แล้ว หนูก็ต้องสู้นะลูกนะ แม่ขอพรให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองหนู ให้เกิดมาสมบูรณ์ครบสามสิบสองประการ ให้หนูเกิดมาเป็นเด็กดี มีความสุข และมีจิตใจที่แจ่มใสเบิกบาน..เข้มแข็งนะลูกนะ แล้วอีกไม่กี่เดือนเราก็จะได้เจอกันแล้วนะ...พ่อกับแม่รักหนูและจะรอหนูนะลูกนะ
........................................................................................................................................
20/12/2013 (2556)
We went and visited the OB (Doctor) for our 16 week conversation. Our routine is to meet the OB every 4 weeks. Our next appointment is on 17 Jan 14.
Mom had to pee in a jar for some medic test (similar to a litmus test) which will be conducted every time we visit the OB. Mom has not gained much from the previous week being 63.5 Kgs. Dr John greeted us when we went into his room and the agenda for our session was as follows:
- Scan results and blood test from the previous round: The scan results and blood tests were fine and with a chance of down syndrome to be 1 in 3000. This is well on the right side of a the normal distribution.
- Preeclampsia result was 1 in 1500 which again was a good result.
- We had several questions including whether Mom and Dad can travel to India and Dr John advise was that unless required, refrain from travel to India. I am sure the reasoning behind this is the climatic conditions, germs in the air etc...
- We also enquired about the private hospital booking and received a pack for us to go through before we make the decision. We will most probably end up going to Waverley Private for the delivery of the bub.
- I was most excited when the doctor attached a featal doppler to listen to the heart beat of the baby. It was so loud and clear and it was so good to hear my baby.
- We bought a Featal Doppler from the USofA to listen more.
Will keep you posted on more.
This blog was written by the Dad and thus very emotionally vacant. See you in Jun 14, my boy. Love Dad.
..........................................................................................................................
17/01/2014 (2557)
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่พ่อกับแม่ต้องไปพบคุณหมอจอห์น อดัมส์ เป็นการตรวจเช็คประจำเดือนเหมือนทุกๆ เดือนที่ผ่านมา แม่ต้องไปให้คุณหมอเช็คเดือนละครั้ง สำหรับวันนี้ลูกของแม่ก็ครบ 19 สัปดาห์แล้วนะลูก หนูมาอยู่กับแม่ได้เกือบห้าเดือนแล้วนะ การตรวจเช็คในวันนี้ก็เหมือนกับทุกๆ ครั้ง คือคุณหมอจะให้แม่ชั่งน้ำหนัก ตรวจปัสสาวะ วัดความดัน และที่สำคัญที่สุดก็คือคุณหมอใช้เครื่องตรวจวัดการเต้นของหัวใจของลูกเพื่อตรวจดูว่าลูกยังแข็งแรงดีอยู่หรือไม่ ซึ่งครั้งนี้พ่อ แม่และคุณหมอก็ไม่ผิดหวังนะลูกนะ หนูแข็งแรงดี หัวใจหนูเต้น 135 ครั้งต่อนาที ขณะที่คุณหมอตรวจหนูก็ดิ้นใหญ่เลย พ่อกับแม่ได้ยินเสียงหนูดิ้นตลอด ไม่รู้ว่าหนูตื่นเต้นหรือตกใจนะ
แม่จำได้ว่าแม่ไปพบคุณหมอจอห์น อดัมส์ได้ประมาณสามสี่ครั้งแล้ว แต่แม่เพิ่งจะได้ชั่งน้ำหนักและตรวจปัสสาวะก็แค่สองครั้ง ครั้งแรกตอนครบ 16 สัปดาห์ ตอนนั้นแม่หนักประมาณ 63 กิโลกรัม น้ำหนักแม่เพิ่มขึ้นมาแค่ประมาณกิโลเดียวเอง ส่วนผลการตรวจปัสสาวะก็ไม่มีอะไรน่าห่วง และครั้งนี้ครบสัปดาห์ที่ 19 น้ำหนักของแม่เพิ่มขึ้นมาอีกนิดนึง ตอนนี้ก็อยู่ที่ 65 กิโลกรัม เพราะหนูตัวโตขึ้นมาอีกนิดนั่นเอง น้ำหนักของแม่ถึงได้เพิ่มขึ้นนะลูก ส่วนผลการตรวจปัสสาวะก็คงต้องรอถามจากคุณหมอตอนไปพบกันคราวหน้า
เดี๋ยววันเสาร์หน้า (25/01/2014) แม่ก็ต้องไปอัลตร้าซาวด์อีกแล้วนะลูก แต่การตรวจอัลตร้าซาวด์ครั้งนี้มันมีอะไรที่พิเศษกว่าทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา นั่นก็คือพ่อกับแม่จะได้รู้อย่างแน่ชัดแล้วว่า ตกลงแล้วหนูเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ครั้งนี้คุณหมอคงบอกเพศได้อย่างแน่นอนแล้วล่ะ (ครั้งก่อนคุณหมอเดาไว้ว่าลูกของแม่น่าจะเป็นผู้ชาย แต่ครั้งนั้นคุณหมอยังไม่ค่อยมั่นใจ) แต่ไม่ว่าหนูจะเป็นหญิงหรือชาย พ่อกับแม่ก็รักหนูที่สุดนะลูกนะ...แม่ขอเพียงแค่ว่าให้หนูเกิดมาเป็นเด็กที่แข็งแรงสมบูรณ์ ครบสามสิบสองประการแค่นี้แม่ก็พอใจ ทุกครั้งที่แม่สวดมนต์ไหว้พระแม่จะขอพรพระท่านตลอดว่า ให้ท่านช่วยคุ้มครองลูกของแม่ให้หนูอยู่รอดปลอดภัย ให้หนูเกิดมาเป็นเด็กที่มีความสุข ให้หนูมีจิตใจที่แจ่มใสเบิกบานและให้หนูเป็นเด็กดีเป็นเด็กเลี้ยงง่าย...อีกไม่นานแล้วนะลูกนะ อีกเดี๋ยวเดียวเราก็จะได้เจอกันละ หนูต้องเข้มแข็งและสู้ๆ นะลูกนะ...พ่อกับแม่รักหนูจ๊ะ
................................................................................................................................
22/01/2014 (2557)
วันนี้เป็นวันแรกที่ลูกดิ้นและแม่สัมผัสได้จากหน้าท้องของแม่เอง ความรู้สึกตอนที่แม่เอามือวางไว้ที่หน้าท้องและรับรู้ถึงแรงดิ้นของลูก หัวใจของแม่พองโต ตื่นเต้นและน้ำตาไหล แม่ดีใจมากๆ นะลูกที่หนูส่งสัญญาณให้แม่ได้รับรู้ว่าหนูแข็งแรงและมีความสุขดีข้างใน แม่อยากให้ดิ้นเยอะๆ แบบนี้ทุกวันไปจนกว่าหนูจะคลอดนะลูก
ตอนเย็นหลังจากพ่อกลับถึงบ้าน แม่เล่าข่าวดีนี้ให้พ่อของหนูฟัง พ่อตื่นเต้นใหญ่เลยนะลูก พ่อรีบเอาหน้ามาแนบกับท้องของแม่และพูดกับหนู พ่อกับแม่ไม่รู้หรอกนะว่าหนูจะได้ยินเสียงพ่อหรือเปล่า แต่หลังจากที่พ่อพูดกับหนูไปได้ระยะหนึ่ง หนูก็ดิ้นใหญ่เลย หน้าท้องแม่กระเพื่อมเล็กๆ แต่อีกไม่นาน ให้หนูโตกว่านี้ หนูคงมีแรงดิ้นได้มากกว่านี้นะลูก พ่อกับแม่คงเห็นการดิ้น การพลิกตัวของหนูผ่านทางหน้าท้องของแม่ได้มากกว่านี้
หนูต้องเข้มแข็ง อดทน แข็งแรงและสมบูรณ์นะลูกนะ พ่อกับแม่จะรอคอยวันที่จะได้พบหนูในวันที่หนูคลอดนะลูก ตอนนี้เรามากันได้ครึ่งทางแล้วนะลูก อดทนอีกนิด รออีกหน่อย แล้วเดี๋ยวเดือนมิถุนายนปีนี้เราค่อยพบกันนะลูก...พ่อกับแม่รักหนูนะลูก
..........................................................................................................................................
25/01/2014 (2557)
วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่พ่อกับแม่ตื่นเต้นสุดๆ นั่นก็เป็นเพราะว่าพ่อกับแม่จะได้เห็นหนูผ่านเครื่องอัลตราซาวด์อีกแล้วนะลูก แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันเสาร์ แต่พ่อกับแม่ก็พากันตื่นนอนแต่เช้า กินเข้า อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็พร้อมแล้วล่ะสำหรับการเดินทางไปอัลตร้าซาวด์ครบสัปดาห์ที่ 20
พ่อกับแม่มาถึงสำนักงานของคุณหมอประมาณแปดโมงตรง แต่สำนักงานเขายังไม่เปิดเลยลูก คงเพราะว่าวันนี้เป็นเสาร์ พนักงานเลยนอนตื่นสายนั่นเอง แต่แปดโมงสิบนาทีพนักงานเขาก็ทำการเปิดสำนักงาน พ่อกับแม่มาเป็นคิวแรกของวัน เพราะวันนี้นัดกับคุณหมอตอนแปดโมงสิบห้านาที เร็วกว่าครั้งก่อนประมาณหนึ่งชั่วโมง และวันนี้เราก็ยังทำกันที่เดิม คือที่มัลเกรฟ แต่เป็นคุณหมออีกคน เพราะคุณหมอโจไม่อยู่ แต่คุณหมอท่านนี้ท่านก็ใจดี พูดอธิบายได้ดีเหมือนกัน
พอเริ่มตรวจ ลูกก็เริ่มดิ้นใหญ่เลยนะลูก มีแอบหาวแอบสะอึกด้วยนะ เอามือมาปิดหน้าปิดตาไว้หมดเลย พ่อกับแม่มีโอกาสได้เห็นหนูชัดๆ แค่ช่วงเดียว แว๊บเดียวจริงๆ (วันนี้แม่เองก็แอบเสียดายที่ไม่ได้หนูชัดๆ เหมือนครั้งก่อน) แต่ไม่เป็นไร เอาไว้เดือนมิถุนายน ให้หนูออกมาแล้วเราค่อยมาดูกันชัดๆ อีกทีนะลูกนะ...ผลการตรวจออกมาแล้ว ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นปกติดี ไม่มีอะไรให้พ่อแม่หรือคุณหมอต้องกังวล หนูแข็งแรงดีมากๆ นะลูก น้ำหนักของลูกตอนนี้ก็ประมาณ 350 กรัม หัวใจหนูเต้นประมาณ 145 ครั้งต่อนาที เสียงหัวใจของหนูยังเสียงดังฟังชัดเหมือนเดิมนะลูก ทุกครั้งที่แม่ได้ยินเสียงหัวใจของหนู น้ำตาแม่ซึมทุกทีเลย...และที่สำคัญก็คือวันนี้พ่อกับแม่ได้รู้แล้วล่ะว่าลูกของแม่น่ะ "เป็นผู้ชาย" นะลูก
ในระหว่างการตรวจ คุณหมอก็พูดอธิบายถึงรูปหน้า ปาก กระโหลก หัวใจ กระดูกสันหลัง กระดูกแขนขา นิ้วมือ นิ้วเท้า ตา และปอด ถึงก็เหมือนที่แม่ได้พูดไปแล้วข้างบนว่าลูกของแม่แข็งแรงเป็นปกติดี พ่อกับแม่ได้ฟังที่คุณหมอบอกก็รู้สึกหายห่วง ไม่มีอะไรให้กังวลอีกแล้ว แต่ถึงยังไงหนูก็ต้องดูแลตัวเอง เข้มแข็งและแข็งแรงสมบูรณ์นะลูก หนูต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ จนกว่าหนูจะคลอดออกมาให้แม่ได้ดูแลหนูข้างนอกนะลูก...เข้มแข็งและเป็นเด็กดีนะลูกนะ พ่อกับแม่รักหนูนะลูก
.............................................................................................................................
14/02/2014 (2557)
วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์นะลูก และก็เป็นวันนัดที่แม่ต้องไปพบคุณหมอด้วย เดือนนี้ทุกสิ่งอย่างก็เรียบร้อยและปกติดีเหมือนทุกๆ เดือนที่ผ่านมานะ น้ำหนักแม่เพิ่มขึ้นมาหลายกิโลหน่อยนะเดือนนี้ จากคราวก่อน 65 กิโลกรัม มาคราวนี้เพิ่มขึ้น 4 กิโลกรัม ตอนแรกแม่ก็กังวลว่าน้ำหนักเพิ่มขึ้นมามากเกินไปหรือเปล่า เพราะภายในเดือนเดียวน้ำหนักเพิ่มมาตั้ง 4 กิโลกรัม แต่พอปรึกษาคุณหมอ ท่านก็บอกว่าปกติดี ไม่มีอะไรให้ต้องห่วง ช่วงเดือนที่ห้าที่หกของการตั้งครรภ์มักจะเป็นแบบนี้กันทุกคน แต่ก็ไม่ควรให้น้ำหนักเพิ่มมากๆ แบบนี้ทุกๆ เดือน
ผลการตรวจปัสสาวะของเดือนที่ผ่านมา รวมถึงผลการอัลตร้าซาวด์แสกนก็ออกมาปกติดีนะลูก คุณหมอบอกว่าลูกของแม่แข็งแรงสมบูรณ์และปกติดี อีกอย่างช่วงเดือนที่ผ่านมาหนูก็เริ่มดิ้นแล้วนะ หนูดิ้นดุ๊กดิ๊กๆ อยู่ในท้องแม่ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะเวลาหลังจากที่แม่กินข้าวเสร็จซักครึ่งชั่วโมงหรือตอนที่แม่นอนตะแคงซ้ายขวา ทุกครั้งที่หนูดิ้นพ่อกับแม่มีความสุขมากนะลูกนะ เพราะมันเหมือนว่าหนูกำลังพยายามสื่อสารกับแม่ผ่านการเคลื่อนไหวแขนขาของหนูนะลูกนะ ช่วงหลังๆ มานี่การดิ้นการเคลื่อนไหวของหนูก็เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็ถือว่าดีนะลูกนะ หนูจะได้ออกกำลังกายและแม่ก็จะได้รู้ว่าหนูยังแข็งแรงและปลอดภัยดี
แต่เพราะว่าช่วงนี้ท้องของแม่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ ก็เลยทำให้แม่นอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่ เพราะมันไม่ค่อยสบายเนื้อสบายตัวน่ะลูก ช่วงกลางคืนแม่ก็หลับๆ ตื่นๆ หรือบางคืนแม่ก็สะดุ้งตื่นและนอนไม่หลับอีกเลย อย่างเมื่อคืนที่ผ่านมาก็เหมือนกัน แม่ตื่นมาดูทีวีตอนตีสองแน่ะ ...ก็ได้แต่หวังว่าหนูจะแข็งแรงและได้พักผ่อนอย่างสบายนะลูกนะ ได้แต่ภาวนาว่าการนอนไม่หลับของแม่จะไม่ส่งผลกระทบถึงหนูนะลูก
แม่มีนัดกับคุณหมออีกทีก็วันที่ 14 ของเดือนมีนาคมนะลูกนะ...และเดี๋ยววันศุกร์หน้าพ่อของหนูก็จะต้องเดินทางไปอินเดียละ ไปเยี่ยมคุณปู่กับคุณย่านะลูก ดังนั้นแม่กับหนูก็ต้องอยู่บ้านกันสองคนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์นะลูก หนูต้องแข็งแรงปลอดภัยและดูแลตัวเองให้ดีๆ นะลูกนะ และแม่เองก็จะรักษาสุขภาพให้ดีเหมือนกัน ....หลังจากพ่อกลับมาแล้ว เราจะไปหาซื้อของใช้ต่างๆ ให้หนูนะลูกนะ ทุกอย่างจะได้พร้อมและเรียบร้อยก่อนที่หนูจะคลอดออกมานะลูก...พ่อกับแม่รักหนูนะลูกนะ
..........................................................................................................................
14/03/2014 (2557)
วันนี้พ่อกับแม่มีนัดกับคุณหมอจอห์น อดัมส์ตอนเช้าอีกแล้วนะลูก เวลานัดก็ประมาณ 09.15 น. ทุกๆ เดือน เดือนละครั้งที่พ่อกับแม่ต้องไปเจอคุณหมอ ซึ่งคุณหมอท่านจะมาทำงานที่สำนักงานเกล็นเวเวอร์ลี่แค่ทุกๆ วันศุกร์เท่านั้นนะลูก...แต่เดี๋ยวการตรวจคราวหน้าคุณหมอท่านจะเริ่มตรวจถี่ขึ้นแล้วนะ จากทุกๆ สี่สัปดาห์ ก็เลื่อนเข้ามาเป็นทุกๆ สามสัปดาห์แทน ซึ่งมันก็ดีเหมือนกัน เพราะว่าตอนนี้แม่ก็อุ้มท้องที่มีหนูอยู่ข้างในได้ประมาณ 7 เดือนแล้วนะลูก แม่ก็อยากเจอคุณหมอบ่อยๆ เวลามีคำถามอะไรก็จะได้ถามได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้นกว่าเดิมด้วย ไม่ต้องรอนานถึงสี่สัปดาห์เหมือนแต่ก่อนล่ะ
วันนี้แม่มาถึงสำนักงานของคุณหมอก่อนเวลานัดนิดหน่อย แต่ก็มีคิวก่อนหน้าแม่มานั่งรอพบคุณหมอแล้ว แม่มาถึงสำนักงานปุ๊บ ก็พูดกับเลขาของคุณหมอนิดหน่อย แล้วจากนั้นก็ส่งตัวอย่างปัสสาวะของแม่ให้คุณเลขาตรวจ พร้อมกับชั่งน้ำหนักด้วยว่าเดือนที่ผ่านมาน้ำหนักของแม่เพิ่มขึ้นมามากน้อยแค่ไหน่ ดีหน่อยที่เดือนนี้น้ำหนักของแม่เพิ่มขึ้นมาแค่หนึ่งกิโลกรัม จากคราวก่อน 69 มาคราวนี้ก็เพิ่มเป็น 70 กิโลกรัม ซึ่งก็ถึงว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ปกตินะ
พอได้เวลาพบคุณหมอ พ่อกับแม่ก็เข้าไปพูดคุยกับคุณหมอเหมือนที่ผ่านๆ มา พร้อมกับมีคำถามที่เตรียมมาถามคุณหมออีกสี่ห้าคำถาม ซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้รับคำตอบที่กระจ่างแจ้งดี คุณหมอตรวจวัดความดันของแม่พร้อมกับฟังเสียงหัวใจของหนูเต้นด้วยนะลูก ซึ่งผลตรวจก็ออกมาเป็นปกติดี ...แล้ววันพรุ่งนี้ วันเสาร์คุณหมอท่านก็มีใบส่งตัวให้แม่ไปเจาะเลือดตรวจหาภาวะความเสี่ยงของการเป็นเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ พร้อมกับตรวจหาค่าเม็ดเลือดแดงว่าเลือดของแม่จะจางมากน้อยแค่ไหน (เนื่องจากแม่เป็นพาหะธาลัสซีเมียน่ะลูก คุณหมอท่านก็เลยตรวจตรงนี้ให้) จากนั้นวันเสาร์หน้านู้น แม่ก็มีนัดฉีดยากันไข้หวัดอีก ตรงนี้ต้องฉีดกันทั้งสองคนทั้งพ่อและแม่นะ เพราะคุณหมอท่านแนะนำมาว่าให้ฉีดกันไว้ ก่อนที่หน้าหนาวจะมาถึง และถึงเวลานั้นคนจะเป็นหวัดกันเยอะมาก อีกอย่างข่าวทีวีประกาศว่าปีนี้ไข้หวัดจะรุนแรงกว่าปีก่อนๆ เราก็เลยต้องกันไว้ก่อนนะลูกนะ
ช่วงนี้ลูกดิ้นเยอะขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลยนะลูก แรงดิ้นแรงเตะก็แรงกว่าแต่ก่อนมากๆ บางทีที่หนูดิ้นแล้วมาโดนบริเวณสะดื้อของแม่ แม่ถึงกับสะดุ้งเลยนะลูก แต่ก็ดีแล้วนะ หนูดิ้นเยอะๆ แบบนี้ แม่ก็จะได้รู้ว่าหนูแข็งแรงและปลอดภัยดี สู้ๆ นะลูก เข้มแข็งและแข็งแรง อีกไม่กี่สัปดาห์เราก็จะได้เจอกันละ แม่จะรอวันครบกำหนดคลอดของหนูนะลูกนะ เราสามคนจะได้เจอกันและอยู่กันพร้อมหน้าเสียที...พ่อกับแม่รักหนูนะลูก
.............................................................................................................
04/04/2014 (2557)
วันนี้พ่อกับแม่ไปพบคุณหมอจอห์นตามนัด ทุกๆ สามสัปดาห์ สัปดาห์นี้ลูกก็ครบสามสิบสัปดาห์แล้วนะลูก คุณหมอก็ตรวจการเต้นหัวใจของลูก วัดความดันของแม่ และแจ้งผลการตรวจหาเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ผลการตรวจออกมาแล้วว่าระดับน้ำตาลในเลือดของแม่สูงกว่าปกติเล็กน้อย (8.2 ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 7.9) มาพบคุณหมอครั้งหน้า แม่คงต้องโดนเจาะเลือดตรวจหาค่าน้ำตาลอีกครั้ง เฮ้อ...ครั้งนี้ ได้ฟังผลแล้ว แม่ก็กังวลอยู่นิดๆ ว่ามันจะมีผลกับหนูหรือเปล่า แม่ภาวนาของให้ลูกของแม่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยและสิ่งเลวร้ายนะลูก ขอให้ลูกของแม่เป็นปกตินะลูก นอกจากผลตรวจเบาหวานขณะตั้งครรภ์แล้ว แม่ยังตรวจหาค่า HB ด้วย ซึ่งผลก็ออกมาว่าต่ำกว่าเกณฑ์เล็กน้อย ทั้งนี้เป็นเพราะว่าแม่เป็นพาหะธาลัสซีเมียด้วยน่ะแหละ คุณหมอก็แนะนำให้แม่กินธาตุเหล็กทุกๆ สองวัน ส่วนผลการตรวจหาเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราในช่องคลอด ผลออกมาปกติดี ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง
นอกจากรับฟังผลตรวจเลือดแล้ว ครั้งนี้คุณหมอแนะนำให้ทั้งพ่อและแม่รับวัคซืนป้องกันโรคไอกรนด้วยนะลูก แม่คิดว่าคงต้องเป็นสัปดาห์หน้านะลูก และพ่อกับแม่ยังได้ปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับเรื่องการกินน้ำมันปลาด้วย เพราะแม่ได้ยินคนเขาพูดกันบ่อยๆ ว่า หลังจากท้องได้ 7 เดือนแล้ว ก็ไม่ควรกินน้ำมันปลาอีก เพราะจะทำให้การแข็งตัวของเลือดมีปัญหาในวันคลอด แต่ทั้งนี้คุณหมอก็ยืนยันว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องหยุดกิน ให้กินต่อไปได้เรื่อยๆ จนกว่าจะคลอด อืมมม...ก็ค่อนข้างสับสนนะ เพราะแต่ละที่ก็คิดและทำต่างกันไป
ตอนนี้พ่อกับแม่ได้เข้ารับการอบรมคุณพ่อคุณแม่มือใหม่แล้วนะลูก เริ่มอบรมตั้งแต่วันที่ 26/03/2014 ทุกๆ วันพุธ ครั้งละ 2 ชั่วโมง นี่ก็ผ่านไปแล้ว 4 ชั่วโมงนะ ยังเหลืออีก 6 ชั่วโมงที่พ่อกับแม่ต้องเข้าร่วม มันก็เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นดี เพราะมีข้อมูลอะไรหลายๆ อย่างที่พ่อกับแม่ไม่เคยรู้มาก่อน นางผดุงครรภ์ท่านก็จะให้ความรู้ในเรื่องการดูแลตัวเองก่อนและหลังคลอด สถานการณ์วันคลอด และอีกหลายๆ อย่าง
หนูต้องเข้มแข็งและแข็งแรงนะลูกนะ อีกไม่สัปดาห์เราก็จะได้เจอกันแล้ว ขอคุณพระคุณเจ้าคุ้มครองหนู ให้หนูปลอดภัยและเป็นปกตินะลูกนะ...พ่อกับแม่รักหนูนะลูก
............................................................................
24/04/2014 (2557)
ครบสามสัปดาห์แห่งการรอคอย และแล้ววันนี้พ่อกับแม่ก็ต้องมาพบกับคุณหมอจอห์นตามนัดอีกแล้วนะลูก ตอนนี้แม่ก็ต้องมาทุกๆ สามสัปดาห์ ถี่กว่าแต่ก่อนนิดหน่อยนะ มาถึงก็ต้องตรวจตัวอย่างปัสสาวะที่แม่นำมา ซึ่งทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่มีอะไรผิดปกติ จากนั้นก็ชั่งน้ำหนักต่อ สัปดาห์นี้น้ำหนักแม่เพิ่มมาหนึ่งกิโลกรัมนะลูก จาก 72 เป็น 73 ซึ่งคุณหมอท่านก็บอกว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติดี
สัปดาห์ก่อนผลการตรวจหาระดับน้ำตาลในเลือดของแม่สูง อาจมีความเสี่ยงเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้ ที่ผ่านมาแม่ก็เลยต้องควบคุมเรื่องอาหารการกินอย่างหนักเลย มาถึงตอนนี้ คุณหมอก็จะส่งแม่ไปตรวจเลือดอีกครั้งหนึ่ง ตรวจดูว่าระดับน้ำตาลลดลงหรือยัง หรือถ้ายังก็อาจต้องมีการตรวจที่ละเอียดมากกว่านี้อีกนิดหน่อย ส่วนการตรวจเลือดที่แม่จะต้องทำในอีกสองสามวันนี้ก็คือ Blood glucose test ซึ่งแม่คิดว่าจะทำในวันเสาร์ที่จะถึงนี้นะลูก (เป็นช่วงหยุดยาวของวันแอนแซ็คเดย์พอดีเลย)
ผลจากการพบกับคุณหมอจอห์นในวันนี้ สรุปทุกอย่างก็ปกติดี คุณหมอได้ตรวจวัดความดัน ตรวจการเต้นของหัวใจของลูก และคลำดูตำแหน่งของลูกในตอนนี้ ซึ่งคุณหมอบอกว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ไม่มีอะไรต้องห่วง แต่เนื่องจากว่าตอนนี้แม่ก็ท้องได้ 33 สัปดาห์แล้ว คุณหมอก็เลยแนะนำให้แม่มาคิดและตัดสินใจว่าอยากจะคลอดด้วยวิธีไหน ด้วยวิธีธรรมชาติหรือว่าผ่าคลอดดี ซึ่งพ่อกับแม่ก็คิดหนักเหมือนกันนะตอนนี้ เพราะไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหนดีทึ่จะปลอดภัยกับหนูมากที่สุดนะลูก แม่ไม่อยากจะให้หนูต้องเสี่ยงกับอะไรเลยนะลูกนะ อยากให้ลูกของแม่คลอดออกมาอย่างแข็งแรงและปลอดภัยนะลูก...ก็เดี๋ยวอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าพ่อกับแม่จะต้องไปพบคุณหมอตามนัดอีก ถึงตอนนั้นพ่อกับแม่ก็คงตัดสินใจและให้คำตอบกับคุณหมอได้ว่าแม่จะคลอดด้วยวิธีไหนนะลูก
แม่ขอให้ลูกของแม่แข็งแรงปลอดภัยนะลูกนะ อีกแค่ 6-7 สัปดาห์เราก็จะได้เจอกันแล้วนะลูก สู้ๆ นะลูก พ่อกับแม่รักหนูมากๆ นะ
...........................................................................................
09/05/2014 (2557)
ถึงลูกรักของแม่...
สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 35 แล้วนะลูก อีกแค่สองอาทิตย์ลูกก็จะครบเทอมพร้อมที่จะคลอดแล้วนะ พ่อกับแม่เฝ้าอดทนรอหนูมาตั้งนาน ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็ใกล้จะเป็นจริงแล้วนะลูก หนูอยู่ข้างในหนูต้องเข้มแข็งและอดทนนะ เมื่อถึงเวลาคลอดแล้วเราก็จะได้เจอกันเสียที ...เราจะได้เจอกันเร็วๆ นี้แล้วนะคนดีของแม่
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่พ่อกับแม่พากันตื่นแต่เช้า เพราะเรามีนัดกับคุณหมอจอห์นตอน 9.15 และเพราะว่าหนูใกล้ครบกำหนดคลอดแล้ว ช่วงนี้แม่ก็เลยมีนัดเจอคุณหมอถี่หน่อย ก็ทุกๆ สองสัปดาห์นะ หลังจากสัปดาห์ที่ 37 เป็นต้นไป พ่อกับแม่ก็ต้องมาพบคุณหมอทุกๆ สัปดาห์แล้วล่ะ ก็ดีเหมือนกัน เพราะแม่อยากให้หนูแข็งแรงปลอดภัยนะลูกนะ อยู่ใกล้ๆ หมอไว้ก็เป็นการดี แม่จะได้ไม่กังวลเวลามีอาการนู่นนี่เกิดขึ้นน่ะ...เฮ้อ พ่อกับแม่ตื่นเต้นมากมายนะลูกนะที่จะได้เจอหนูในเร็ววันนี้
วันนี้แม่ก็ทำกิจวัตรตามที่คุณหมอได้แนะนำไว้นะ มาถึงสำนักงานของคุณหมอปุ๊บ แม่ก็ต้องเอาปัสสาวะไปให้คุณพยาบาลตรวจว่าปกติหรือไม่ ซึ่งผลที่ออกมาก็ปกติดี จากนั้นแม่ก็ชั่งน้ำหนักต่อ สัปดาห์นี้น้ำหนักของแม่อยู่ที่ 76 กิโลกรัม (น้ำหนักเพิ่มมาตั้งแต่เริ่มตั้งท้องประมาณ 13 กิโลกรัม)...หลังจากนั้นพ่อกับแม่ก็เข้าพบคุณหมอ พูดคุยถามตอบปัญหากันนิดหน่อย พร้อมกับให้คำตอบกับคุณหมอไปว่าแม่จะคลอดด้วยวิธีธรรมชาติก่อน หรือถ้าหากมีอะไรที่ซับซ้อนเกิดขึ้นในภายหลัง ถึงตอนนั้นก็ค่อยคิดถึงเรื่องผ่าตัดต่อไป ซึ่งคุณคุณหมอท่านก็ไม่ว่าอะไร
นอกจากพูดคุยซักถามปัญหากันแล้ว คุณหมอยังแจ้งผลการตรวจเลือดของแม่ที่แม่ได้ตรวจไปเมื่องสองอาทิตย์ก่อน ผลตรวจสรุปแล้วว่าระดับน้ำตาลของแม่ปกติดี ไม่มีเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งแม่ก็โล่งใจไปอีกเปราะ เพราะแม่ไม่อยากให้โรคภัยไข้เจ็บมากล้ำกรายลูกของแม่นะลูก จากนั้นคุณหมอก็ทำการวัดความดัน ซึ่งผลออกมาก็ปกติดี และจากนั้นก็ทำการอัลตร้าซาวด์ต่อเพื่อดูว่าหนูเป็นยังไง อยู่ในท่าไหน ณ ขณะนี้ เอาหัวลงแล้วหรือยัง ซึ่งก็ปรากฏว่าลูกของแม่ยังไม่ได้เอาหัวลงเลย ยังไงๆ หนูก็ต้องเริ่มเอาหัวลงได้แล้วนะลูก อีกไม่กี่สัปดาห์หนูก็จะต้องคลอดออกมาแล้วนะ หนูต้องเตรียมพร้อมนะลูก ตอนคลอดทั้งหนูและแม่จะได้ไม่เจ็บปวดไม่มีความเสี่ยงนะ ...
แม่ขอให้หนูแข็งแรง ปลอดภัยนะลูกนะ ให้หนูปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและให้หนูเกิดมาครบสามสิบสองประการ...ที่สำคัญให้หนูคลอดง่ายๆ ด้วยนะลูก แล้วเดี๋ยวอีกไม่กี่วันเราก็จะได้เจอกันแล้วนะ...เป็นเด็กดีนะลูก พ่อกับแม่รักหนูมากๆ นะ
..................................................................................................
23/05/2014 (2557)
วันนี้เป็นเช้าวันศุกร์ วันที่ใครๆ ต่างก็เฝ้ารอคอยเพราะมันเป็นวันทำงานวันสุดท้ายของสัปดาห์ ส่วนแม่เองก็เฝ้ารอวันศุกร์เหมือนกัน เพราะมันจะเป็นทุกๆ วันที่แม่จะได้มาพบคุณหมอจอห์น อดัมส์ และรวมถึงได้รับรู้ถึงพัฒนาการของลูกแม่นั่นเอง เช้านี้พ่อกับแม่ก็มาถึงสำนักงานของคุณหมอจอห์นเวลาเดิม นั่นก็คือ 9.15 น. วันนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่ มาถึงสำนักงานปุ๊บ พนักงานส่วนหน้าเขาก็ให้แม่ไปชั่งน้ำหนัก พร้อมกับตรวจตัวอย่างปัสสาวะ ซึ่งทุกสิ่งอย่างก็เป็นปกติดี ไม่มีปัญหาอะไร วันนี้น้ำหนักของแม่อยู่ที่ 76 กิโลนะลูก รวมๆ แล้วน้ำหนักแม่ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนมาถึงตอนนี้ก็เพิ่มมาประมาณ 13 กิโล (อ้วนมากนั่นเอง)
พอถึงเวลานัด 9.30 น. พ่อกับแม่ก็ได้เข้าพบคุณหมอจอห์น วันนี้คุณหมอจอห์นท่านก็ยังตรวจรายละเอียดของทุกอย่างเหมือนเดิม คือยังมีการตรวจวัดความดันและตรวจฟังเสียงการเต้นของหัวใจของลูก แต่วันนี้มีอีกอย่างที่เพิ่มเข้ามา นั่นก็คือคุณหมอได้มีการคลำหน้าท้องของแม่เพื่อดูตำแหน่งของลูกว่า ลูกของแม่เอาหัวลงแล้วหรือยัง ซึ่งคุณหมอท่านก็บอกว่าลูกแม่ได้เอาหัวลงแล้ว
วันนี้พ่อกับแม่ไม่ได้มีคำถามมาถามคุณหมอมากมายเหมือนกับคราวก่อนๆ แต่พ่อได้ขอจดหมายส่งตัวเพื่อให้แม่ได้รับการตรวจอัลตราซาวด์ (ครั้งที่ 4) เพื่อดูขนาดและตำแหน่งที่แน่นอนของลูก ซึ่งคุณหมอท่านก็ใจดีออกให้ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีเหตุจำเป็นที่จะต้องตรวจเลย แต่เพราะเพื่อความสบายใจของพ่อกับแม่ คุณหมอท่านก็เลยต้องหาเหตุผลหลอกๆ เขียนลงในใบส่งตัว (เพื่อที่แม่จะได้เคลมเงินจากเมดิแคร์ได้นั่นเอง) ... จากนี้ไปแม่จะต้องมาพบคุณหมอทุกๆ สัปดาห์แล้วนะลูก ตอนนี้แม่ก็ 37 สัปดาห์กับอีก 2 วัน สัปดาห์หน้าครบ 38 สัปดาห์ แม่ก็อยากจะให้หนูคลอดออกมาละ เพราะแม่อยากเจอหนูไวๆ และอยากอุ้มหนูด้วยนะลูก ให้หนูเข้มแข็ง แข็งแรงและสมบูรณ์นะลูกนะ พ่อกับแม่รักหนูนะลูก
.........................................................................................................................
26/05/2014
วันนี้เป็นวันจันทร์ ตอนเที่ยงวันนะลูก พ่อกับแม่มีนัดตรวจอัลตราซาวด์ที่บ๊อกซ์ฮิล (ปกติแม่ตรวจที่มัลเกรฟ แต่เผอิญว่าคิวที่มัลเกรฟเต็ม พ่อกับแม่ก็เลยต้องมาตรวจที่นี่แทน) วันนี้คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ มีคนรอก่อนหน้าแม่แค่คนเดียวเอง แต่แม่ต้องรอนานกว่าปกติเพราะที่นี่คงจะมีห้องตรวจแค่ห้องเดียว แม่รออยู่ประมาณ 20 นาทีก็ได้ตรวจ
สัปดาห์นี้แม่ก็ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 38 แล้ว อุ้ยอ้ายเต็มที พอเข้าห้องตรวจคุณหมอท่านก็ให้นอนหงายเพื่อที่จะได้ทำการอัลตราซาวด์ ทุกครั้งที่แม่ได้เห็นหนูผ่านหน้าจอแสดงภาพ แม่ตื่นเต้นและตื้นตันมากมาย ยิ่งได้ยินเสียงหัวใจหนูเต้น แม่ก็ยิ่งอยากจะเจอหนูเร็วๆ นะลูก สรุปแล้วผลการตรวจออกมาว่า ลูกของแม่สมบูรณ์แข็งแรงและเป็นปกติดีทุกอย่าง น้ำหนักประมาณ 7 ปอนด์ หรือประมาณ 3.2 กิโล ตำแหน่งของลูกแม่ตอนนี้ก็คือหนูได้เอาหัวลงแล้ว หนูอยู่ในลักษณะนอนตะแคง ก้นชี้มาทางด้านซ้ายของท้องแม่ เท้าและมืออยู่ทางด้านขวาของท้องแม่นะลูกนะ
เดี๋ยววันศุกร์นี้มีนัดกับคุณหมอจอห์น คุณหมอท่านคงบอกรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมอีกเล็กน้อย หลังจากนั้นแล้ว แม่อยากให้หนูเตรียมพร้อมนะลูก ให้หนูพร้อมเกิดพร้อมคลอดนะ เราจะได้เจอกันเสียที สู้ๆ นะลูก พ่อกับแม่รักหนูนะ
..........................................................................................................................
30/05/2014 (2557)
วันศุกร์อีกแล้วนะลูก พ่อกับแม่พาหนูมาพบคุณหมอจอห์นกันนะ วันนี้พ่อกับแม่มาถึงที่ทำงานคุณหมอจอห์นเป็นรายแรกเลย มาถึงปุ๊บก็ไปชั่งน้ำหนักปั๊บ พร้อมกันนี้ก็เอาตัวอย่างปัสสาวะให้ผู้ช่วยคุณหมอตรวจเพื่อเช็คว่าทุกสิ่งอย่างปกติดีหรือไม่ สรุปผลออกมาทุกอย่างก็ปกติดีเหมือนเคย ส่วนน้ำหนักของแม่สัปดาห์นี้ก็อยู่ที่ 78 กิโลกรัม เพิ่มจากสัปดาห์ก่อนมาอีกนิดหน่อย
พอได้เข้าพบคุณหมอ คุณหมอท่านก็สรุปผลการอัลตร้าซาวด์ให้พ่อกับแม่ฟังอีกรอบ ซึ่งทุกอย่างก็ยังเป็นปกติดีเหมือนที่แม่ได้ฟังไปแล้วรอบหนึ่งเมื่อวันจันทร์ คุณหมอบอกว่าแม้ว่าน้ำหนักของหนูจะน้อยกว่าเกณฑ์ไปนิดหน่อย แต่คุณหมอก็ไม่กังวล เพราะไม่ได้น้อยกว่าเกณฑ์ไปมากมายอะไร และเป็นแบบนี้แหละคุณหมอบอกว่าจะได้คลอดง่ายๆ ด้วย
หลังจากพูดคุยถามคำถามจากคุณหมอเสร็จ (วันนี้พ่อกับแม่มีคำถามมาน้อย มีแค่ 2 คำถามเอง) คุณหมอก็ตรวจวัดความดันให้แม่ ซึ่งความดันสัปดาห์นี้ก็ปกติดีเหมือนเดิม ต่อจากความดัน คุณหมอก็ตรวจการเต้นของหัวใจของหนู ผลออกมาก็คือลูกของแม่ก็เป็นปกติและแข็งแรงดีนะลูก
หนูต้องสู้ๆ เข้มแข็งและแข็งแรงนะลูก เดี๋ยวอีกไม่กี่วันเราก็จะได้เจอกันละ พ่อกับแม่รักหนูนะลูก
..........................................................................................................................
04/06/2014 (2557)
วันนี้เป็นวันพุธนะลูก หนูอาจจะแปลกใจว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงได้มีนัดกับคุณหมอจอห์นในวันพุธ ทำไมไม่นัดเจอกันวันศุกร์เหมือนที่ผ่านๆ มา ทั้งนี้ก็เพราะว่าวันศุกร์ที่จะถึงนี้คุณหมอจอห์นท่านมีอบรม พ่อกับแม่ก็เลยต้องมาวันนี้แทนนะลูก ตอนนี้ก็เก้าโมงกว่าๆ ละ เวลานัดจริงๆ ก็ 9.30 น.
มาถึงสำนักงานของคุณหมอจอห์น สิ่งแรกที่พ่อกับแม่จะต้องทำก็คือเอาตัวอย่างปัสสาวะของแม่ไปตรวจ ซึ่งผลตรวจก็ออกมาเป็นปกติดี ทั้งหนูและแม่ก็แข็งแรงปลอดภัยดีนะลูก จากนั้นแม่ก็ชั่งน้ำหนัก อาทิตย์นี้น้ำหนักของแม่อยู่ที่ 79 กิโลกรัมแน่ะ น้ำหนักแม่เพิ่มขึ้นมาเยอะเลยนะ จากก่อนตั้งท้องอยู่ที่ 63 ตอนนี้ท้องได้ 39 สัปดาห์ น้ำหนักของแม่อยู่ที่ 79 กิโลกรัม เพิ่มมาประมาณ 15 กิโลกรัมเลยนะลูก แต่ไม่เป็นไร เพื่อลูกแม่ก็จะพยายามกินให้ได้เยอะๆ กินอาหารที่มีประโยชน์นะลูก เอาไว้หลังคลอดแล้วค่อยมาออกกำลังกายและลดน้ำหนักกันนะ
พอได้เข้าพบคุณหมอ คุณหมอก็ตรวจวัดความดันของแม่ ผลออกมาก็เป็นปกติเหมือนเดิม จากนั้นก็ฟังเสียงการเต้นของหัวใจของลูก ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าปกติอีกเหมือนกัน ทุกอย่างราบรื่นดี ส่วนคำถามที่พ่อกับแม่มักจะเตรียมมาถามคุณหมอนั้น วันนี้มีแค่คำถามเดียว นั่นก็คือ "ถ้าหากว่าเลยกำหนดคลอดไปแล้ว แม่ยังไม่คลอด คุณหมอจะทำยังไงต่อไป" ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าเดี๋ยวเอาไว้มาคุยกันอีกทีวันอังคารหน้า "วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน เป็นวันครบกำหนดคลอดของหนูนะลูก นอกจากนี้แล้ววันนี้ยังเป็นวันเกิดของราชินีอลิซเบธด้วย"
ใจจริงแม่อยากให้หนูคลอดภายในอาทิตย์นี้เลยนะลูก ไม่ต้องรอให้ถึงวันจันทร์ก็ได้ อีกอย่างแม่ไม่อยากให้หนูคลอดหลังวันครบกำหนดคลอดเลย แม่กังวลไปสารพัดนะลูก กลัวความไม่แน่นอนต่างๆ นานา อีกอย่างแม่อยากให้หนูคลอดอย่างปลอดภัยนะลูกนะ...แต่ถึงยังไงพ่อกับแม่ก็จะรอวันที่หนูคลอดออกมานะลูก เราจะได้พบกันเสียที พ่อกับแม่รักหนูนะลูก
.................................................................................................
10/06/2014 (2557)
เมื่อวานเป็นวันครบกำหนดคลอดของหนูนะลูก แต่สงสัยว่าหนูจะยังมีความสุขกับการได้อยู่ในท้องของแม่ จนมาถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ได้เจอกัน วันนี้วันอังคาร เลยกำหนดคลอดมาหนึ่งวัน พ่อกับแม่ก็เลยต้องไปพบคุณหมอจอห์นที่สำนักงานที่แดนดินอง พ่อกับแม่ออกจากบ้านประมาณสี่โมงตรง แต่เป็นเพราะรถค่อนข้างติด กว่าจะถึงสำนักงานก็ใช้เวลาไปประมาณสี่สิบนาที วันนี้แม่ไม่ต้องตรวจตัวอย่างปัสสาวะหรือชั่งน้ำหนักแล้ว เพราะเลยกำหนดคลอดมาแล้ว (คุณหมอคงไม่กังวลอะไรอีกแล้ว) แต่แม่ก็แอบชั่งน้ำหนักที่บ้านเอง ตอนนี้น้ำหนักของแม่อยู่ที่ประมาณ 79 กิโลกรัม
เวลาประมาณ 4.50 น. แม่กับพ่อก็ได้เข้าพบคุณหมอ คุณหมอก็ตรวจวัดความดันและวัดอัตราการเต้นของหัวใจของหนูตามปกติ ซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาปกติดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หลังจากนั้นคุณหมอก็ขอตรวจเช็คช่องคลอดของแม่ว่าสภาพ ณ ตอนนี้เป็นอย่างไร เปิดหรือยัง เริ่มบางแล้วหรือยัง ซึ่งผลก็ออกมาในทางที่ดี
คุณหมอท่านก็พูดคุยกับพ่อแม่ประมาณว่า ให้กลับมารอที่บ้านอีกสองวัน ถ้าวันพฤหัสบดี หนูยังไม่ยอมออกมา ตอนเย็นของวันพฤหัสฯ (5.00 น.) แม่ก็จะต้องไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลเวเวอร์ลี่เพื่อรับยาสอดกระตุ้นและเร่งคลอด คุณหมอบอกว่าไม่เกินวันศุกร์หนูก็จะต้องออกมาแล้วล่ะ
แต่ยังไงก็ตามถ้าเป็นไปได้แม่ก็ไม่อยากรับยาเร่งคลอดหรืออะไรนะ แม่อยากคลอดโดยปราศจากการใช้ยา ...แม่อยากให้ลูกของแม่ออกมาได้แล้วนะลูกนะ พ่อกับแม่อยากเจอหนูเหลือเกิน รอหนูมาสิบเดือนเต็มแล้วนะ อย่าให้แม่รอนานกว่านี้เลยนะลูก แม่อยากให้การคลอดครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี โดยที่ทั้งหนูและแม่แข็งแรงปลอดภัย ไม่ต้องผ่านความเจ็บปวดหรืออุปสรรคใดๆ นะ ...พยายามนะลูก เข้มแข็งและออกมาได้แล้วนะ พ่อกับแม่รอหนูอยู่นะลูก...พ่อกับแม่รักหนูนะ
.........................................................................
12/06/2014 (2557)
ตอนนี้เป็นช่วงเย็นๆ ของวันพฤหัสบดีนะลูก พ่อกับแม่มีนัดกับคุณหมอจอห์นที่โรงพยาบาลเวเวอร์ลี่ พ่อกับแม่มาถึงโรงพยาบาลตอน 5.30 น. เพื่อเตรียมความพร้อมให้คุณหมอมาสอดยาตอน 6.30 น. นางผดุงครรภ์มารับพ่อกับแม่ที่ห้องโถงของโรงพยาบาล แล้วพาพ่อกับแม่ไปยังห้องคลอดพร้อมกับอธิบายขั้นตอนการทำคลอดระบบระเบียบของโรงพยาบาลและรวมถึงวิธีการใช้อุปกรณ์ในห้องคลอดให้พ่อกับแม่ได้เข้าใจ จากนั้นแม่ต้องเอาตัวอย่างปัสสาวะให้นางผดุงครรภ์ไปตรวจ พอทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว นางผดุงครรภ์ก็ให้พ่อกับแม่รอคุณหมออยู่ในห้องคลอดนั้นเลย ช่วงระหว่างที่รอทางโรงพยาบาลก็มีอาหารเย็นมาเสริฟให้ เป็นแซนวิชชิ้นเล็กๆ หกชิ้น
พอถึงเวลานัด 6.30 น. คุณหมอจอห์นก็มาถึง หลังจากที่พูดคุยถามไถ่อาการเสร็จ คุณหมอก็สอดยาให้แม่ พอทุกอย่างเสร็จสิ้นนางผดุงครรภ์ก็พาพ่อกับแม่ไปยังห้องพักเบอร์ 18 พ่อกับแม่พักผ่อนอยู่ในห้องพักจนถึงสี่ทุ่ม แม่ก็เริ่มปวดท้อง แม้ว่าจะไม่ได้เจ็บปวดอะไรมากมาย แต่ก็เป็นอาการเจ็บที่ทำให้อยู่นิ่งๆ ไม่ได้ แม่ต้องคอยเปลี่ยนท่าเปลี่ยนอริยาบทของตัวเองอยู่ตลอดเวลา ในช่วงนี้นางผดุงครรภ์ก็เข้ามาเช็คอยู่เรื่อยๆ มีเอายาแก้ปวดมาให้บ้าง และมาช่วยสวนทวารให้แม่ด้วย
จนเวลาเกือบๆ เที่ยงคืน พ่อกับแม่ก็ได้ย้ายกลับไปอยู่ที่ห้องคลอด ในห้องคลอดนางผดุงครรภ์ก็มาติดเครื่องวัดคลื่นหัวใจของแม่ ของลูก และเครื่องวัดการบีบตัวของมดลูก ตัวเลขหรือค่าที่ได้จากการวัดก็จะขึ้นที่จอมอนิเตอร์ แม่นอนอยู่บนเตียง ส่วนพ่อก็นั่งที่โซฟา ระหว่างนี้พ่อกับแม่ก็รอให้ถึงเวลาคลอด รอไปเรื่อยๆ พ่อก็มีง่วง มีแอบงีบหลับบ้าง ส่วนแม่ไม่ได้นอนเลย เพราะอาการปวดมันมาตลอด เป็นระยะๆ ในระหว่างนี้ก็จะมีนางผดุงครรภ์มาเช็คดูความเรียบร้อยและความคืบหน้าเป็นระยะๆ
..................................................................................
13/06/2014 (2557)
ในระหว่างที่พ่อกับแม่รอให้ถึงเวลาคลอดอยู่ในห้องคลอดนั้น ความเจ็บปวดก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดที่แม่ทนเจ็บไม่ไหวแล้ว (เวลา ณ ขณะนั้นคงประมาณตีสอง) นางผดุงครรภ์ก็มาฉีดยาเพ็ทธิดีนให้แม่หนึ่งเข็ม อาการเจ็บปวดที่แม่รู้สึกก็ค่อยๆ เบาลงไป แม่รู้สึกเบาสบายและไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดได้ประมาณชั่วโมงกว่าๆ หลังจากนั้นความเจ็บปวดมันก็กลับมารุนแรงเหมือนเดิม และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในระหว่างนี้แม่ก็ขอใช้แก๊สช่วยบรรเทาอาการปวดไปเรื่อยๆ แก๊สที่แม่ใช้เป็นลาฟฟิ่งแก๊ส ยิ่งสูดดมเข้าไปมากก็จะทำให้รู้สึกมึนๆ เบลอๆ
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะ ณ เวลานั้นแม่ทั้งเหนื่อย ทั้งเพลีย ง่วงและเจ็บปวด บางช่วงนางผดุงครรภ์บอกให้แม่อยู่นิ่งๆ ห้ามเบ่ง เพราะยังไม่ถึงเวลาเบ่ง แต่เพราะความเจ็บปวดที่มันมากมายเหลือเกิน แม่ทนไม่ไหวจริงๆ มันต้องทำอะไรซักอย่างให้ความเจ็บปวดมันทุเลาลง แม่ก็ไม่ฟังที่นางผดุงครรภ์แนะนำ แม่เจ็บแม่ก็เบ่ง เพราะเบ่งแล้วแม่รู้สึกว่ามันดีขึ้น แม่เบ่งๆ หยุดๆ แบบนี้เองคนเดียวได้ซักระยะ จนเวลาประมาณหกโมงเช้าถุงน้ำคร่ำก็แตก (มันแตกเหมือนลูกโป่งที่บรรจุน้ำแตก คือแรงดันแรงเบ่งมันส่งผลให้น้ำคร่ำกระเด็นไปโดนนางผดุงครรภ์ที่ยืนอยู่ปลายเตียง จนเสื้อผ้านางผดุงครรภ์เลอะน้ำคร่ำหมด) ณ วินาทีนั้นทุกคนอึ้งแล้วก็หัเราะกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนตัวของแม่เองก็รู้สึกว่า "ดี" เพราะแม่คิดว่าถุงน้ำคร่ำแตกแล้ว ลูกของแม่ก็คงจะคลอดใน่อีกไม่กี่นาทีหลังจากนี้...แต่แม่ก็คิดผิด เพราะหลังจากถุงน้ำคร่ำแตกแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากความเจ็บปวดที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากถุงน้ำคร่ำแตกแล้ว ความเจ็บปวดที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้แม่เกิดอารมณ์ที่หลากหลายมาก ทั้งเจ็บปวดทรมาน ทั้งหงุดหงิดรำคาญ ทั้งหมดหวังหมดกำลังใจ แต่ในขณะเดียวกันบางครั้งก็รู้สึกฮึดสู้ว่ายังไงๆ ก็ต้องทำให้ได้ จากที่ตอนแรกแม่ใส่เสื้อกาวน์ของทางโรงพยาบาล แต่เพราะอารมณ์หลากหลายที่แม่ได้บอกไปนั้น ทำให้แม่ถอดเสื้อผ้าอะไรออกหมด ณ ตอนนั้นไม่มีความรู้สึกอายอะไรทั้งนั้น รู้เพียงแค่ว่าร้อน และรำคาญเสื้อผ้าที่หลวมโพรกพรากนี้ ผมที่มัดอยู่ก็หลุดลุ่ย ถ้าตอนนั้นแม่มีกรรไกรอยู่ในมือ แม่ก็คงจะกร่อนผมตัวเองไปด้วย (โชคดีที่พ่อนั่งอยู่ใกล้ๆ อยู่ข้างเตียงตลอด พอพ่อเห็นว่าผมแม่หลุดลุ่ยมาบังหน้า พ่อก็จะรีบรวบและมัดให้แม่อย่างรวดเร็ว)
ตอนแรกๆ แม่เบ่งแบบไม่ฟังเสียงห้ามหรือคำแนะนำจากนางผดุงครรภ์ แต่ช่วงหลังๆ มีนางผดุงครรภ์คนหนึ่งเข้ามานั่งข้างเตียงใกล้ๆ แม่ เป็นนางผดุงครรภ์ที่ทำหน้าที่ได้ดีมากๆ มีเทคนิคและพูดโน้มน้าวได้เก่ง ทำให้แม่เชื่อฟังได้อย่างไม่อยาก และเพราะนางผดุงครรภ์คนนี้นี่แหละที่ทำให้แม่มีแรงเบ่ง มีแรงสู้ แม่เบ่งตามคำแนะนำไปเรื่อยๆ จนเวลาประมาณ 8.15 น. ลูกของแม่ก็คลอดออกมาพร้อมกับน้ำหนัก 3.85 กิโลกรัม(พ่อเล่าให้ฟังตอนหลังว่าตอนที่หัวของหนูโผล่ออกมา หนูยังหลับตาพริ้มอยู่เลย แต่พอช่วงไหล่ช่วงตัวออกมาปุ๊บ หนูก็ร้องไห้จ้าเลย) หลังจากชั่งน้ำหนักเสร็จ นางผดุงครรภ์ก็เอาหนูมาให้แม่อุ้ม แม่อุ้มหนูได้ซักระยะหนึ่งคุณหมอเด็กก็เข้ามาเพื่อทำการตรวจสอบว่าลูกของแม่ปกติดีหรือเปล่า หรือมีปัญหาอะไรตรงไหนหรือไม่ พอนางผดุงครรภ์มาอุ้มหนูไปให้คุณหมอ แม่ก็สังเกตเห็นว่าหนูได้อึทิ้งไว้ให้แม่ดูต่างหน้าด้วย (อึสีเขียวๆ เทาๆ ของหนูเต็มหน้าท้องของแม่หมดเลยนะลูก) คุณหมอตรวจเช็คหนูสองครั้ง ผลสรุปแอ็พก้าร์เทสของหนูได้ 9 คะแนนนะลูก ทุกสิ่งอย่างเป็นปกติดี
แต่...หลังจากที่พ่อกับแม่ยิ้มมีความสุขกับการเกิดมาของหนูได้ประมาณ 40 นาที เหตุการณ์ก็พลิกผัน นางผดุงครรภ์ที่ทำคลอดให้แม่ได้สังเกตุเห็นว่าเลือดของแม่ยังไม่หยุดไหล หลังจากนางผดุงครรภ์และหมอได้พูดคุยปรึกษากันเสร็จแล้ว ก็ได้ผลสรุปว่าแม่มีอาการตกเลือด หรือที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Postpartum hemorrhage (pph) พอได้คำตอบของสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว นางผดุงครรภ์และคุณหมอก็เริ่มกดท้องแม่เพื่อขับเลือดออกจากมดลูก แม่จำได้ว่าทุกครั้งที่แม่โดนกดท้อง แม่ร้องเสียงดังมาก เพราะความเจ็บปวดทรมานมันมากมายเหลือเกิน และแม้ว่าแม่จะได้รับแก๊สหัวเราะร่วมด้วยทุกครั้งที่มีการกด แต่แก๊สก็ไม่ได้ช่วยให้แม่หายปวดเลย นางผดุงครรภ์กดท้องแม่ประมาณ 5-6 ครั้งได้ แต่สุดท้ายแม่ทนความปวดไม่ไหว จึงขอให้นางผดุงครรภ์หยุดกด (ตอนหลังพ่อของหนูมาเล่าให้แม่ฟังว่าทุกครั้งที่นางผดุงครรภ์กดท้องแม่ คุณหมอก็จะสอดมือเข้าไปกวาดเอาก้อนเลือดออกจากมดลูกของแม่ด้วย และนี่ก็คงจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งว่าทำไมแม่ถึงรู้สึกปวดอย่างมากมาย) หลังจากที่นางผดุงครรภ์หยุดกดท้องแม่ แม่ก็ได้ขอให้คุณหมอทำให้แม่สลบก่อนที่จะลงมือกระทำการใดๆ กับแม่ ทั้งนี้เพราะความเจ็บปวดมันเกินกว่าที่แม่จะรับได้จริงๆ
ก่อนที่แม่จะถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัด แม่ได้ยินคุณหมอคุยกับพ่อของหนูถึงสถานการณ์ของแม่ในตอนนี้ พ่อของหนูถามคุณหมอว่า "สิ่งเลวร้ายที่สุดที่จะเกิดกับแม่คืออะไร มีอะไรที่มีผลถึงชีวิตหรือไม่" คุณหมอก็ตอบประมาณว่าถ้าเลือดยังไม่หยุดไหล คุณหมอก็จะตัดมดลูกของแม่ทิ้งไป (มีผลทำให้แม่ไม่สามารถตั้งท้องได้อีก) ได้ยินแบบนั้นแล้วพ่อก็บอกว่าไม่เป็นไร ขอแค่ทุกคนปลอดภัยก็พอแล้ว สภาพของแม่ ณ ตอนนั้น พอได้ยินคุณหมอพูดแม่ก็ใจเสียเล็กน้อย เป็นห่วงหนูและพ่อด้วย เพราะพ่อไม่ได้นอนทั้งคืน แม่กลัวว่าพ่อจะฝืนขับรถกลับบ้านไปอาบน้ำ ซึ่งตรงนี้แม่ก็เป็นห่วงกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ ส่วนหนูก็ถูกส่งให้ไปอยู่แผนกเด็กอ่อนคนเดียว แม่ก็เป็นห่วงอีกว่าใครจะดูแลป้อนนมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้หนู (แต่จริงๆ แล้วทางโรงพยาบาลก็ดูแลลูกของแม่เป็นอย่างดี)
หลังจากที่แม่เข้าห้องผ่าตัด และคุณหมอคว้านเอาเลือดออกจากมดลูกของแม่หมดแล้ว แม่ก็ถูกส่งตัวไปอยู่ในห้องพัก่ที่คล้ายกับห้องพักฉุกเฉิน แม่พักอยู่ในห้องนี้ประมาณ 3 วัน ในระหว่างนี้พ่อก็มานอนเฝ้าแม่ที่ห้องนี้ด้วย (ความจริงพ่อมีห้องพักอยู่อีกห้องหนึ่ง แต่พ่อก็อยากจะมาดูแลแม่อย่างใกล้ชิด พ่อก็เลยเลือกมาพักอยู่กับแม่ที่ห้องนี้ ส่วนหนูก็ยังอยู่ที่แผนกเด็ก พ่อก็เทียวไปเทียวมาระหว่างห้องแม่กับห้องหนู และในแต่ละวันพ่อก็จะไปรับหนูมาเยี่ยมแม่สองสามครั้ง แม่ก็ได้ฝึกให้นมหนูไปด้วยในตัว) หลังจากสามวันในห้องฉุกเฉินผ่านไป แม่ก็ได้ย้ายไปพักฟื้นที่ห้องพักธรรมดาอีกสองวัน ก่อนที่แม่จะออกจากโรงพยาบาลในวันที่ 18 มิถุนายน ตอนเที่ยงตรงพอดี
แม่อยากจะบอกลูกของแม่ว่า ตลอดระยะเวลาสิบเดือนกว่าๆ นิดๆ ที่ผ่านมา มันเป็นช่วงเวลาแห่งบททดสอบที่พ่อกับแม่จะต้องก้าวผ่านและเรียนรู้ มันเป็นช่วงเวลาที่ความหลากหลายทางอารมณ์และความรู้สึกได้เกิดขึ้น กับเหตุการณ์ต่างๆ ที่พ่อกับแม่ต้องพบเจอ บางสิ่งบางอย่างก็แปลกใหม่ทำให้ได้ตื่นเต้นและวิตกไปพร้อมๆ กัน ความสุขความและกังวลที่มาในเวลาเดียวกันได้ทำให้พ่อกับแม่ได้เข้าใจว่านี่คือชีวิต "จุดเริ่มต้นของชีวิตน้อยๆ นั่นเอง" ...แต่ก็นั่นแหละ มาถึงตอนนี้เราทั้งสามคนก็ได้ผ่านช่วงวันเวลาเหล่านั้นมาด้วยกันแล้วนะ แม่ก็อยากจะบอกหนูว่าพ่อกับแม่มีความสุขมากๆ กับวินาทีแรกที่ได้ยินเสียงหนูร้องไห้ กับวินาทีที่หนูได้ลืมตาดูโลกที่ซึ่งเป็นวินาทีแรกที่พ่อกับแม่ได้เห็นหนูเหมือนกัน ต่อจากนี้ไปมันจะไม่ใช่แค่พ่อกับแม่อีกแล้วนะ ครอบครัวเราจะมีพ่อ แม่ และก็หนูเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน ขอบคุณทุกๆ อย่างที่ช่วยให้เรามีเราในวันนี้นะลูก...พ่อกับแม่รักหนูที่สุดนะ
...................................................................................................................
No comments:
Post a Comment